แผนการที่เหมือนกับการฆ่าตัวตาย เมื่อเจอกับบาร์ซ่าของปีศาจแดง

แผนการที่เหมือนกับการฆ่าตัวตาย เมื่อเจอกับบาร์ซ่าของปีศาจแดง

ไม่มีทีมไหนที่ต้องเจอกับความเจ็บปวดต่อการพ่ายแพ้ บาร์เซโลน่า ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไปมากกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้ว แม้จะเป็นการคุมทีมโดย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สุดยอดบรมกุนซือของทีม แม้กระทั่งของโลก แต่ก็ไม่สามารถปราบคู่แข่งจากสเปนได้ เมื่อต้องพบกับความพ่ายแพ้ไปทั้งสองครั้งที่ได้เจอกัน

เฟอร์กูสันคุมปีศาจแดงคว้าแชมป์ยุโรปได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น โดยเกิดขึ้นในปี 1999 กับการคว้าเทรเปิ้ลส์แชมป์ และดับเบิ้ลแชมป์ในอีก 9 ปีต่อมา ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และแชมเปี้ยนส์ลีก

แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายเอาชนะบาร์ซ่า ในรอบรองชนะเลิศ ด้วยสกอร์รวม 1-0 หลังพอล สโคลส์ เป็นคนทำประตูชัยให้กับทีม แม้คู่แข่งจะมีสามประสานอย่างลีโอเนล เมสซี่, ซามูเอล เอโต้ และอันเดรส อิเนียสต้า ก่อนที่ทีมจะเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ และดวลจุดโทษเอาชนะเชลซีได้ 6-5

แต่อย่างไรก็ตาม บาร์ซ่า และแมนฯ ยูไนเต็ด ได้โคจรมาเจอกันอีกครั้งในนัดชิงชนะเลิศปีต่อมา โดยเฟอร์กูสันปรับแผนโดยการเปิดเกมรุกเข้าใส่เหมือนกับแผนการเล่นของทีมที่ใช้มาตลอด จนกลายเป็นเอโต้ และเมสซี่ ที่ทำคนละ 1 ประตู ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ไปได้สำเร็จ

ก่อนที่อีก 2 ปีต่อมา ทั้งสองทีมจะได้โคจรมาเจอกันอีก เป็นโอกาสให้เฟอร์กูสันแก้มือ แต่สุดท้ายก็ยังเป็นเปโดร โรดริเกซ, เมสซี่ และดาบิด บีย่า ที่ทำคนละ 1 ประตูช่วยให้ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า คว้าแชมป์ไปด้วยสกอร์ 3-1 ในขณะที่ เวย์น รูนี่ย์ เป็นคนทำประตูให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด

รูนี่ย์ กล่าวว่า “พวกเราแพ้ในนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อต้องดวลกับบาร์ซ่าของกวาร์ดิโอล่า พวกเขาพยายามดันขึ้นสูง และมันทำให้พวกเราเหมือนกับฆ่าตัวตาย ผมจำได้เลย อเล็กซ์ เฟอร์กูสันบอกว่า ‘พวกเราเป็นแมนฯ ยูไนเต็ด และพวกเราก็เล่นเกมรุก มันเป็นวัฒนธรรมของสโมสรฟุตบอลนี้’ แต่ผมก็คิดว่า ‘ผมไมมั่นใจกับสิ่งนั้น’ ผมคิดว่านักเตะทุกคนรู้ว่ามันผิด มันเป็นวิธีที่ผิด เมื่อพวกเราเคยประสบความสำเร็จมาในปี 2008 ในรอบรองชนะเลิศ พวกเราต้องทำเหมือนกับปีนั้น”

“แต่สิ่งที่เกิดขึ้น มันคือเรื่องจริง พวกเรานั่งลงและคิดว่า ‘พวกเราแพ้’ สำหรับผม มันไม่สำคัญเลยที่คุณจะเล่นยังไง ตราบใดที่คุณชนะ ลองมองไปดูลิเวอร์พูลกับนัดชิงชนะเลิศปีที่แล้ว และผมคิดว่า ทีมของซีดานมีความคิดแบบเดียวกัน”