ตั้งแต่ แกเร็ธ เบล ย้ายจากสเปอร์สไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวประมาณ 100 ล้านยูโร เจ้าตัวเองใช้เวลาไม่นานนักในการพิสูจน์ตัวเองว่าดีพอจะเล่นให้กับมาดริดได้แบบไม่ยากนัก การประสานงานของ 3 ประสาน BBC อย่าง โรนัลโด้ เบนเซม่า และเบล ก็น่ากลัวไม่แพ้ 3 MSN จากฝั่งบาร์ซ่าในเวลานั้นเช่นกัน
เบล เป็นนักเตะที่มีความเร็วชนิดหาตัวจับยากและยังพึ่งพาได้ในเรื่องการทำประตู ปัญหาเดียวของเบลล์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลาโดยเฉพาะในช่วงหลังก็คือเรื่องของอาการบาดเจ็บที่รบกวนอยู่เป็นระยะๆที่ทำให้ต้องพักยาวบ้างสั้นบ้าง ทำให้ฟอร์มเริ่มมีปัญหาและสโมสรก็คงจะเริ่มมองมานานแล้วว่าการมีเบลล์อยู่ในทีมเริ่มไม่คุ้มกับค่าเหนื่อยที่มหาศาล
โดยเฉพาะในฤดูกาลที่แล้วเจ้าตัวโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน จนโดนอิสโก้ขึ้นมายึดตัวจริงแทนอยู่บ่อยครั้งและอิสโก้เองก็ทำได้มากด้วย แต่ฤดูกาลนี้ทั้ง 2 คน ดูจะมีปัญหากับซีเนอดีน ซีดาน นายใหญ่ชุดขาวกันทั้งคู่เพราะเหมือนกับว่าซีดานไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวทั้งคู่สักเท่าไหร่จากผลงานช่วงต้นฤดูกาลที่ย่ำแย่ จะเห็นได้จากการไม่ค่อยเรียกใช้งานหรือการเปลี่ยนตัวออกก่อนเสมอ ทำให้มีข่าวออกมาเป็นระยะๆ ว่าเจ้าตัวไม่ค่อยพอใจกันกับสถานการณ์แบบนี้และอาจจะต้องจำใจกลับมาอังกฤษถึงแม้จะชอบการใช้ชีวิตในสเปน ทั้งเรื่องของอากาศและอาหาร แค่ไหนก็ตาม
ซึ่งสโมสรที่มีข่าวจะดึงมาก็แน่นอนว่าต้องเป็นทีมใหญ่และมีเงินถึงที่จะต้องจ่ายค่าตัวที่น่าจะก้อนโตอยู่ แม้ว่าไม่น่าจะเท่ากับที่มาดริดจ่ายตอนซื้อมา รวมถึงค่าเหนื่อยที่ก็ต้องมากพออีกเช่นกันที่จะโน้มน้าวใจเบลให้มาอยู่กับทีมได้ ซึ่งก็คงหนีไม่พ้น เชลซี แมนฯยูไนเต็ด ส่วนกับ แมนฯซิตี้ นั้นยังไม่เห็นข่าวว่ามีการสนใจแต่อย่างใด แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าถึงเวลาจริงๆหากมาดริดอยากจะปล่อยเบลจริงๆแล้วจะมีทีมไหนต้องการเบลจริงหรือไม่ เพราะอย่างที่บอกฝีเท้านั้นไม่ใช่ปัญหาแต่ อาการบาดเจ็บต่างหากที่เป็นอุปสรรคใหญ่เพราะแม้จะเก่งแค่ไหนแต่ถ้าใช้งานได้ไม่เต็มที่ก็คงไม่คุ้มเท่าไหร่เช่นกัน
ถึงแม้ว่าล่าสุดเอเย่นต์ของเบลจะยืนยันว่าเบลไม่คิดจะย้ายกลับมาและทุกอย่างเป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น แต่ในโลกของฟุตบอลแล้วอะไรก็ย่อมไม่แน่นอน โดยเฉพาะหากทีมชุดขาวล้มเหลวและเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างซีดานกับเบล ก็คงไม่คนใดคนหนึ่งที่ต้องออกจากทีมไป ซึ่งด้วยบารมีของซีดานก็น่าจะมากพอที่จะทำให้คนที่ต้องไปก็น่าจะเป็น แกเร็ธ เบล